บาคาร่าเว็บตรง มาดามแป้ง แสดงความมั่นใจคนไทยได้ฉีด แอสตราเซเนกา จาก สยามไบโอไซเอนซ์ แน่นอน ยืนยันมาตรฐานเทียบเท่าที่อื่น นาง นวลพรรณ ล่ำซำ หรือ มาดามแป้ง ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กรกิตติมศักดิ์ บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด ได้ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ เรื่องเล่าเช้านี้ หลังจากที่มีหลายฝ่ายตั้งข้อสงสัยว่าวัคซีนแอสตราเซเนกาที่ถูกผลิตโดยสยามไบโอไซเอนซ์ อาจจะไม่มาถึงตามกำหนดจำนวนหลายล้านโดสอย่างที่รัฐบาลเคยกล่าวเอาไว้ และหวั่นว่าวันที่ 7 มิถุนายน ที่บอกว่าจะเป็นดีเดย์การปูพรมฉีดทั้งประเทศนั้น จะไม่ได้ฉีดกันจริง ๆ
มาดามแป้ง เผยว่า ข้อกังวลในประเด็นว่าจะมีวัคซีนให้ฉีดหรือไม่นั้น
ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า สยามไบโอไซเอนซ์ เป็นเพียงผู้รับจ้างผลิตให้แอสตราเซนเนก้า ส่วนสัญญาระหว่างแอสตราเซนเนกาและรัฐบาลไทยเป็นอีกสัญญาหนึ่ง ทั้งนี้ สยามไบโอไซเอนซ์ได้รับการถ่ายทอดวิธีการผลิตวัคซีนในระยะเวลา 6 เดือน และสามารถส่งมอบล็อตแรก 1.8 ล้านโดส เมื่อวานนี้ (2 มิถุนายน) โดยวัคซีนที่ผลิตได้นั้น มีคุณภาพเทียบเท่ากับฐานการผลิตอื่น เช่นเกาหลีใต้ ออสเตรเลีย และมีการยื่นเอกสารให้ตรวจสอบโดยบุคคลที่ 3
ส่วนจำนวนที่รัฐบาลไทยบอกว่าสั่งซื้อเอาไว้ 26 ล้านโดส และบอกว่าจะเข้ามาในเดือนมิถุนายนนี้ก่อนประมาณ 6 ล้านโดสในเดือนมิถุนายน มาดามแป้งบอกว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่หลายคนสับสน สยามไบโอไซน์ เป็นเพียงบริษัที่รับจ้างผลิต และเราลงนามเมื่อเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม 2563 และทางโรงงานสามารถส่งมอบวัคซีนได้ตามกำหนดสัญญาให้ทางบริษัท ส่วนทางแอสตราเซนเนกา จะนำไปจัดสรรอย่างไรนั้น เป็นเรื่องของบริษัทแอสตราเซนเนกาเอง
ส่วนเรื่องสัญญาระหว่างสยามไบโอไซน์ กับแอสตราเซนเนกานั้น เป็นสัญญาแบบห้ามไม่ให้มีการเปิดเผย (non-disclosure) และไม่ระบุด้วยซ้ำว่า จะผลิตได้เท่าไร แต่ทางสยามไบโอไซน์ผลิตได้กว่า 1.8 ล้านโดส แต่การที่รัฐบาลไทยจะได้วัคซีนตามที่ตกลงกับแอสตราเซนเนก้าหรือไม่นั้น เป็นเรื่องของสัญญาระหว่างแอสตราเซนเนกาและรัฐบาลไทย และวัคซีนที่ผลิตได้ เป็นลิขสิทธิ์ของสยามไบโอไซเอนซ์ ที่อาจจะส่งออกไปยัง 8 ประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นั่นหมายความว่า สยามไบโอไซเอนซ์ ซึ่งมีสถานะเป็นบริษัทเอกชน ไม่สามารถไปก้าวล่วงได้ว่า วัคซีนจะจัดสรรให้ใคร อย่างไร
ทั้งนี้ มาดามแป้งคาดว่า วัคซีน 1.8 ล้านโดสที่ผลิตได้ น่าจะมีการส่งมอบให้รัฐบาลไทย และทุกคนก็มีความหวังอยู่ที่วัคซีนแน่
ศธ. สั่งโรงเรียน คืนค่าเทอม 1/2564 หลัง ผป. ร้องเรียน
ตรีนุช ประกาศสั่งโรงเรียน คืนค่าเทอม ประจำการศึกษา 1/2564 หลังจากที่ผู้ปกครองร้องเรียนกับทางกระทรวงเป็นจำนวนมาก
น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยว่า ตนได้ลงนามในประกาศ ศธ. เรื่อง แนวปฏิบัติการเก็บเงินบำรุงการศึกษา ค่าธรรมเนียมการศึกษา ค่าธรรมเนียมการเรียน และค่าธรรมเนียมอื่นไปแล้ว หลังจากที่มีผู้ปกครองร้องเรียนเรื่องการเก็บเงินบำรุงการศึกษา ค่าธรรมเนียมการศึกษา ค่าธรรมเนียมการเรียน และค่าธรรมเนียมอื่น ของสถานศึกษา เป็นจำนวนมาก
รัฐมนตรีว่าการศธ. กล่าวต่อว่า ในประกาศดังกล่าวระบุ ว่า อนุสนธิประกาศ ศธ. เรื่อง การเลื่อนเวลาเปิดภาคเรียนที่ 1 ประจำปีการศึกษา 2564 ลงวันที่ 19 พฤษภาคม 2564 เนื่องมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด- 19 และให้โรงเรียนหรือสถานศึกษาในสังกัดและในกำกับของ ศธ.จัดการเรียนการสอนเฉพาะรูปแบบการจัดการศึกษาทางไกล โดยบางโรงเรียนหรือสถานศึกษาที่มีความพร้อมและประสงค์จะจัดการศึกษาในรูปแบบ On Site หรือ เรียนที่โรงเรียน ได้จะต้องผ่านเกณฑ์การประเมินความพร้อมของระบบ Thai StopCOVID Plus (TSC+) และได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดก่อน นั้น ด้วยรูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนดังกล่าว ประกอบกับมีโรงเรียนหรือสถานศึกษาบางแห่งได้มีการเรียกเก็บเงินบำรุงการศึกษา ค่าธรรมเนียมการศึกษา ค่าธรรมเนียมการเรียน และค่าธรรมเนียมอื่นจากผู้ปกครอง
ดังนั้น เพื่อเป็นการลดภาระค่าใช้จ่ายและบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ปกครองในสถานการณ์ปัจจุบัน ศธ.กำหนดแนวปฏิบัติการเก็บเงินบำรุงการศึกษา ค่าธรรมเนียมการศึกษา ค่าธรรมเนียมการเรียน และค่าธรรมเนียมอื่น ให้โรงเรียนหรือสถานศึกษาในสังกัด หรือในกำกับของ ศธ.ถือปฏิบัติ
สำหรับแนวปฏิบัติการเก็บเงินบำรุงการศึกษา ค่าธรรมเนียมการศึกษา ค่าธรรมเนียมการเรียน และค่าธรรมเนียมอื่น ที่ให้โรงเรียนหรือสถานศึกษาในสังกัดหรือในกำกับของ ศธ. ถือปฏิบัติ มีดังนี้
1.ในกรณีที่ได้มีการเรียกเก็บเงินบำรุงการศึกษา ค่าธรรมเนียมการศึกษา ค่าธรรมเนียม การเรียน และค่าธรรมเนียมอื่นไปแล้ว ให้คืนเงินบำรุงการศึกษาหรือค่าธรรมเนียมดังกล่าว ในส่วนที่ไม่ได้จัดกิจกรรมการเรียนการสอนนั้นในระหว่างที่เกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
2.ในกรณีที่มีความจำเป็นต้องเรียกเก็บเงินบำรุงการศึกษา ค่าธรรมเนียมการศึกษาค่าธรรมเนียมการเรียน และค่าธรรมเนียมอื่น เพื่อใช้จ่ายในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน อาจพิจารณาผ่อนผันหรือขยายระยะเวลาการเรียกเก็บเงินบำรุงการศึกษา หรือ ค่าธรรมเนียมดังกล่าวตามความเหมาะสมเป็นกรณีไป
3.พิจารณาให้ความช่วยเหลือในกรณีที่ผู้ปกครองของนักเรียน นักศึกษา ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าวตามความจำเป็นเหมาะสม
และ 4.ให้หน่วยงานต้นสังกัดหรือที่กำกับโรงเรียนหรือสถานศึกษา แจ้งเวียนไปยังสถานศึกษาในสังกัด หรือ ในกำกับให้ปฏิบัติตามประกาศนี้
ทั้งนี้ ตั้งแต่ปีการศึกษา 2564 เป็นต้นไปจนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น บาคาร่าเว็บตรง