เปิดตัว! Galaxy A53 5G สมาร์ทโฟนที่อัดแน่นนวัตกรรมล่าสุดในราคาสุดคุ้มค่า

เปิดตัว! Galaxy A53 5G สมาร์ทโฟนที่อัดแน่นนวัตกรรมล่าสุดในราคาสุดคุ้มค่า

Galaxy A53 5G สมาร์ทโฟน ‘เก่งไม่กั๊ก’ กล้องกันสั่น OIS เครื่องทนน้ำ IP67 สะท้อนความเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นฮิตสุดของซัมซุง กาแลคซี่ ด้วยการรวมเอานวัตกรรมรุ่นล่าสุด มารวมไว้ใน Galaxy A Series ใหม่ในเครื่องเดียว โซล, เกาหลีใต้ (17 มีนาคม 2565) – ซัมซุง ประกาศเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ 

อย่าง Galaxy A53 5G ที่อัดแน่นไปด้วยนวัตกรรมล่าสุดในราคาสุดคุ้มค่า ทั้งกล้องที่ทำงานพร้อมกับ AI อันเป็นเอกลักษณ์ของสมาร์ทโฟนซัมซุง กาแลคซี่ มาตรฐานการทนน้ำกันฝุ่น IP67 ชิปเซ็ตรุ่นใหม่ประมวลผลเร็วขนาด 5 นาโนเมตร หน้าจอขนาดใหญ่ที่ใช้งานได้อย่างลื่นไหล แบตเตอรี่สุดอึด 5,000 มิลลิแอมป์ที่พร้อมรองรับการใช้งานได้นานถึงสองวัน รวมไปถึงการเชื่อมต่อเครือข่าย 5G ระบบความปลอดภัยขั้นสูง การออกแบบอย่างมีสไตล์แต่ยังคงไว้ซึ่งความคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งการใช้งานเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นๆ ภายใต้กาแลคซี่ อีโคซิสเต็ม และการรับประกันเพื่ออัพเกรด[1] One UI และ Android OS รวมถึงระบบความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มั่นใจได้ว่าผู้ใช้จะได้รับประสบการณ์การใช้งานสมาร์ทโฟนอันยอดเยี่ยมอยู่เสมอ

ดร. ทีเอ็ม โรห์ ประธานธุรกิจ โมบายล์ เอ็กซ์พีเรียนซ์ ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ กล่าวว่า “เราเชื่อว่าทุกคนควรได้รับประสบการณ์การใช้งานสมาร์ทโฟนที่ดีที่สุด ซึ่งด้วย Galaxy A Series ใหม่ที่เปิดตัวในวันนี้ จะทำให้ผู้ใช้ได้เข้าถึงนวัตกรรมอันล้ำสมัยของสมาร์ทโฟนซัมซุง กาแลคซี่ได้ง่ายขึ้น ด้วยราคาที่คุ้มค่ากว่าที่เคย”

พร้อมบันทึกทุกความประทับใจได้ในทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างสรรค์หรือการแชร์คอนเทนต์ให้กับเพื่อนๆ สมาร์ทโฟน Galaxy A53 5G ก็พร้อมเสมอ! ด้วยนวัตกรรมกล้องที่มาพร้อมประสิทธิภาพและฟีเจอร์สนุกๆ มากมายเหมือนในสมาร์ทโฟนแฟลกชิป Galaxy S Series โดย Galaxy A53 5G จะมาพร้อมกล้องสี่ตัว กับความละเอียดสูงสุดที่ 64 ล้านพิกเซล รวมถึง OIS กันสั่น และเทคโนโลยี VDIS ทำให้ได้ภาพที่นิ่งและคมชัดในทุกครั้งที่ยกขึ้นมาถ่ายภาพ พร้อมกล้องหน้า 32 ล้านพิกเซล ที่จะทำให้การเซลฟี่และการวิดีโอคอลล์เป็นไปได้อย่างไร้ที่ติ

สมาร์ทโฟนจะทำงานผ่านชิปเซ็ต 5 นาโนเมตร ที่จะส่งต่อพลังไปให้กล้องซึ่งทำงานร่วมกับนวัตกรรม AI เพื่อให้บันทึกภาพได้อย่างสวยงาม รวมถึงฟีเจอร์การถ่ายภาพโหมดกลางคืนที่ได้รับการพัฒนาขึ้นใหม่ จะนำภาพทั้งหมด 12 เฟรมมารวมเข้าด้วยกัน ทำให้ภาพถ่ายยามค่ำคืนดูคมชัดแม้แสงน้อยและมี Noiseลดลง ทั้งนี้ หากเป็นการถ่ายวิดีโอ Galaxy A Series จะทำการปรับเฟรมเรตให้โดยอัตโนมัติเพื่อภาพที่สว่างและชัดเจนขึ้นอีกด้วย

สำหรับ Portrait Mode  ก็ได้รับการพัฒนาให้บันทึกภาพแบบชัดลึก พร้อมเก็บรายละเอียดโครงร่างของวัตถุได้แม่นยำยิ่งขึ้น ผ่านการทำงานของกล้องคู่และ AI อันทรงพลัง นอกจากนี้ใน Fun Mode ผู้ใช้ก็สามารถเพิ่มความสนุกสนาน ด้วยการใส่ฟิลเตอร์และเอฟเฟกต์แบบต่างๆ ไปพร้อมกับการใช้เลนส์อัลตร้าไวด์

ปิดท้ายด้วยฟีเจอร์ Photo Remaster ที่จะคืนความสดใสให้ภาพเก่ากลับมาเหมือนใหม่ ด้วยการตั้งค่าแสงและความละเอียดของภาพได้ตามต้องการ รวมถึงฟีเจอร์ Object eraser ที่จะลบภาพพื้นหลังที่ไม่ต้องการให้ออกไปได้ในทันที

ดูคอนเทนต์ได้ทุกที่ ทุกเวลา แสงจ้าแค่ไหนก็ไม่มีหวั่น

เมื่อก่อนการดูคอนเทนต์บนหน้าจอในที่แสงจ้าอาจทำได้ยาก แต่ด้วยอัลกอริธึมอัจฉริยะใน Galaxy A Series รุ่นใหม่ จะทำให้หน้าจอแสดงผลได้อย่างชัดเจนในทุกที่ทุกเวลา แม้แต่อยู่กลางแจ้งก็ตาม โดย Galaxy A53 มาพร้อมกับหน้าจอ Super AMOLED ขนาดใหญ่ 6.5 นิ้ว[2] ที่มาพร้อมอัตรารีเฟรชหน้าจอที่ 120Hz เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานอันน่าประทับใจ ซึ่งผู้ใช้สามารถรับชมคอนเทนต์ สตรีมมิง หรือใช้งานเพื่อความบันเทิงอื่นๆ ได้อย่างจุใจผ่านแบตเตอรี่ที่อยู่ได้นานถึง 2 วัน[3]ที่รองรับการชาร์จเร็วถึง 25 วัตต์[4] ทำให้ใช้งานได้อย่างต่อเนื่องไม่มีสะดุด

ดีไซน์อันสวยงาม ที่เปี่ยมด้วยความหมายและความทนทาน Galaxy A Series มาพร้อมดีไซน์ที่เน้นทั้งในเรื่องแฟชั่น ฟังก์ชัน และการใช้งานอย่างยั่งยืน ด้วยความโดดเด่นของขอบจออันเพรียวบาง และการจัดวางบริเวณขอบมุมเพื่อให้กล้องผสานเข้ากับตัวเครื่องได้อย่างลงตัว โดยตัวเครื่องของทั้ง Galaxy A53 5G ทำมาจากกระจก Corning® Gorilla® Glass 5 พร้อมยังมีมาตรฐานการทนน้ำ IP67[5] เพื่อให้ใช้งานได้อย่างมั่นใจในทุกสถานการณ์

ทั้งนี้ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ซัมซุงได้ท้าทายแนวคิดที่ต้องการก้าวข้ามขีดจำกัดของเทคโนโลยี เพื่อการใช้ทรัพยากรธรรมชาติมาสร้างสรรค์นวัตกรรมได้อย่างมีคุณค่าสูงสุด ซึ่งเมื่อเดือนสิงหาคม 2021 ที่ผ่านมา ซัมซุงได้เปิดตัวแพลตฟอร์ม Galaxy for the Planet เพื่อแสดงถึงความมุ่งมั่นในการดำเนินการด้านสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นรูปธรรม พร้อมตั้งเป้าที่จะทำให้โลกดีขึ้นภายในปี 2025 

ซึ่ง Galaxy A Series[6] ถือเป็นอีกหนึ่งความพยายามในการต่อยอดแนวความคิดดังกล่าว ด้วยการอะแดปเตอร์ออก พร้อมลดขนาดบรรจุภัณฑ์ให้เล็กลงและเปลี่ยนมาใช้วัสดุกระดาษที่มาจากแหล่งผลิตที่ยั่งยืน ในขณะที่ตัวเครื่องสมาร์ทโฟนก็มีชิ้นส่วนที่ทำมาจากวัสดุรีไซเคิลจากผลิตภัณฑ์เหลือใช้ของผู้บริโภค ในบริเวณปุ่มด้านข้าง และถาดใส่ซิมการ์ดด้วยเช่นกัน

Credit : ที่เที่ยวญี่ปุ่น | จัดอันดับต่างๆ | รีวิวของแบรนเนม | วิธีการลงทุนต่า